หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญในการตลาดออนไลน์ตอนนี้ที่สร้างรายได้ให้กับภาคธุรกิจคือ Affiliate Marketing หรือการนำสินค้าไปโปรโมตตามช่องทางออนไลน์ผ่านลิงค์ของคุณ โดยไม่ต้องลงทุนในการผลิตสินค้า สต๊อก แพ็คสินค้า เพื่อส่งให้ลูกค้าแต่อย่างใด เพียงทำงานผ่านการโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หากสินค้าขายได้ผ่านลิงค์ที่โปรโมต ก็จะได้รับค่านายหน้าทันที
Affiliate Marketing
Affiliate Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ผู้ประกอบการจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับบุคคลหรือองค์กรอื่น (เรียกว่า “พันธมิตร”) สำหรับการนำลูกค้าใหม่หรือยอดขายมาให้ โดยพันธมิตรจะโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของผู้ประกอบการผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรืออีเมล
ใครบ้างที่มีส่วนร่วมใน Affiliate Marketing
องค์ประกอบของ Affiliate Marketing แบ่งเป็น 3 ส่วนได้แก่
- Advertiser – เจ้าของสินค้าที่ต้องการโปรโมทสินค้าหรือขายสินค้า
- Publisher – เจ้าของเว็บไซต์, Social Media, Blogger ผู้มาโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อสินค้า
- Customer – ผู้ซื้อสินค้า
รูปแบบการสร้างรายได้ของ Affiliate Marketing
- Pay Per Sale (PPS) – จ่ายเงินเมื่อมีการขายสินค้าเกิดขึ้น โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายสินค้า/บริการ หรือให้ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน
- Pay Per Lead (PPL) – จ่ายเงินเมื่อมีคนมาสมัครหรือลงทะเบียนผ่านลิงก์ของ Publisher
- Pay Per Click (PPC) – จ่ายเงินให้กับผู้ที่โฆษณาต่อคลิก ไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ก็ตาม เพียงแค่มีการคลิกก็ได้เงินทันที
- โบนัส (Bonus) – รายได้พิเศษที่ทาง Priceza มอบให้แก่พาร์ทเนอร์ ที่เข้าเกณฑ์ต่างๆ เช่น สร้างจำนวนผู้ใช้ใหม่ให้กับร้านค้า หรือสร้างจำนวนคำสั่งซื้อได้เป็นจำนวนมาก
ประเภทของ Affiliate Marketing
1. Unattached Affiliate
ผู้ที่ไม่มีเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของตนเอง แต่จะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียหรืออีเมลในการโปรโมทสินค้าหรือบริการของผู้อื่น
2. Content Affiliate
ผู้ที่มีเว็บไซต์หรือบล็อกที่ให้ข้อมูลหรือรีวิวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ และมีการแทรก Affiliate Link เพื่อให้ผู้อ่านสามารถคลิกซื้อสินค้าหรือบริการได้โดยตรง
3. Niche Affiliate
ผู้ที่มีเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพ หรือเว็บไซต์เกี่ยวกับการเงิน และมีการโปรโมทสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ โดยเฉพาะ
ข้อดีและข้อเสียของการทำ Affiliate Marketing
มุมมองของผู้ประกอบธุรกิจ
Affiliate Marketing ข้อดี คือ สามารถเพิ่มยอดขายและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ไม่ต้องลงทุนด้านการตลาดมากนัก ติดตามผลลัพธ์และวัดความสำเร็จได้ง่าย แต่จะต้องแบ่งปันผลกำไรกับตัวแทนผู้รับทำ การหาตัวแทนผู้รับทำที่มีคุณภาพอาจเป็นเรื่องท้าทาย ในส่วนของเนื้อหาการโปรโมตอาจควบคุมได้ยาก
มุมมองของตัวแทนผู้รับทำ
สามารถสร้างรายได้จากการโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตนสนใจ ไม่ต้องลงทุนด้านสินค้าหรือบริการ มีความยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน แต่ข้อเสีย คือ รายได้ขึ้นอยู่กับยอดขายที่ทำได้ และการแข่งขันกับตัวแทนรายอื่นๆ รวมถึงการสร้างเนื้อหาเพื่อโปรโมตมากขึ้น
ขั้นตอนการทำ Affiliate Marketing
วิธีการทำ Affiliate สามารถเริ่มต้นได้ ดังนี้
1. เลือก Niche และผลิตภัณฑ์
- การเลือกหัวข้อหรืออุตสาหกรรมที่คุณสนใจและมีความรู้เกี่ยวข้อง
- ค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับ Niche ของคุณและหาโปรแกรมพันธมิตร
2. เข้าร่วมโปรแกรมพันธมิตร
- สมัครเข้าร่วมโปรแกรมพันธมิตรของผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือก
- อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขของโปรแกรมอย่างละเอียด
3. การสร้างเนื้อหาเพื่อเตรียมโปรโมต
- ควรสร้างเนื้อหาที่ให้ข้อมูลและมีส่วนร่วมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- ใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มการมองเห็นในเครื่องมือค้นหา
- แสดงลิงก์พันธมิตรของคุณในเนื้อหาอย่างชัดเจน
4. โปรโมตเนื้อหา
- โปรโมตเนื้อหาของคุณบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น บล็อก โซเชียลมีเดีย
- อาจใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เช่น SEO, SEM
- สร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมของคุณเพื่อสร้างความไว้วางใจ
5. การติดตามผลลัพธ์
- การใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อดูว่าเนื้อหาใดทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพที่สุด
- ปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณตามข้อมูลดังกล่าว
เคล็ดลับ : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการ สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจหรือเป็นที่จับตามอง ขยันโปรโมตเนื้อหาของคุณอย่างสม่ำเสมอ
Influencer Affiliate Marketing หนึ่งตัวเลือกก้าวกระโดด
การตลาดพันธมิตรที่ใช้บุคคลที่มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ โดยนายหน้าขายของออนไลน์เหล่านี้จะได้รับค่าคอมมิชชันจากยอดขายที่เกิดขึ้นจากการโปรโมตของตน ซึ่งแนวโน้มของการประสบผลสำเร็จมีความเป็นไปได้สูงขึ้น เนื่องจากชื่อเสียงของอินฟลูเอนเซอร์ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากแฟนคลับ
Affiliate Marketing ในไทย ที่ได้รับความนิยม
- โปรแกรมพันธมิตร Lazada – Lazada Affiliate Program เป็น Platform ที่ใครๆก็รู้จัก ให้ค่าคอมมิชชันสูงถึง 40% พร้อมกับระบบ Affiliate link lazada ที่ใช้งานง่าย บันทึกยอดขาย ยอด Conversion ได้อย่างแม่นยำ
- โปรแกรมพันธมิตร Shopee – Affiliate link Shopee Program สามารถเลือกวิธีการโปรโมทสินค้าได้หลากหลาย การรีวิว เขียนคอนเท้นต์ เปรียบเทียบสินค้า ได้ค่าคอมมิชชันแต่ละอย่างแตกต่างกันไป
- โปรแกรมพันธมิตร Tiktok – การทํา Affiliate Tiktok ต้องมียอดติดตาม 1000 คนขึ้นไป จึงเข้าร่วมทำ Affiliate ได้ เพียงทำคลิปรีวิวสินค้า แปะลิงค์ตระกร้าสินค้า เพิ่มตะกร้าสินค้าไปที่ช่อง ค่าคอมมิชชันแต่ละชิ้นนั้นจะแตกต่างกันออกไป
- โปรแกรมพันธมิตร Priceza Affiliate – เป็น Website ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบราคาสินค้า พร้อมกับ Affiliate Program เลือกสินค้ามาโปรโมทผ่านช่องทางของตนเอง
- โปรแกรมพันธมิตร Accesstrade – เป็น Affiliate Platform มีฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใคร ๆ ก็ร่วมงานได้ทั้งหมด
สรุป การทำ Affiliate Marketing เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็สามารถเริ่มทำได้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางหารายได้ แบบขายของออนไลน์แบบไม่ต้องลงทุน ไม่จำกัดเวลา สถานที่ เป็นการตลาดที่ได้รับความนิยม เพิ่มช่องทางการขายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ เจ้าของสินค้า ช่วยทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้มากขึ้น สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ยังไม่มีสินค้าหรือต้องการหาสินค้ามาโปรโมต สินค้าแฟชั่นที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้ธุรกิจ ให้เรา Taobao2you ช่วยคุณ เราเป็นบริษัทรับนำเข้าสินค้าจากจีน ให้บริการสั่งของจากเว็บไซต์จีน พร้อมทีมงานที่สามารถสื่อสารภาษาจีนกับร้านค้าจีนอย่างชำนาญ ช่วยให้ท่านเพิ่มศักยภาพในด้านการแข่งขันการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เรามีโกดังสินค้าจีนในไทยเพื่อคัดแยกไม่ให้ปะปนกับสินค้าคนอื่น จัดการเอกสารให้พร้อมทั้งพิธีการศุลกากร เพื่อเคลียร์สินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณได้รับสินค้าได้ครบทุกชิ้นภายในไม่กี่วัน หากท่านสนใจสินค้านำเข้าจากจีน สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ตลอดทุกวัน
