หลายคนที่คิดจะสั่งซื้อสินค้านำเข้า เริ่มสนใจสินค้าจากต่างประเทศหรือสินค้าจากจีน อาจจะยังสงสัยระหว่างคำว่า Cargo กับ Freight ว่าทั้งสองคำนี้เหมือนกันหรือไม่ แล้ว Cargo คือ หมายถึงอะไร เกี่ยวข้องกันอย่างไรในการขนส่งสินค้า และมีความเหมือนหรือแตกต่างกันกับ Freight หรือไม่อย่างไร ถ้าเช่นนั้นวันนี้เราจะมาอธิบายทั้งสองคำให้เข้าใจกันเพื่อนำไปใช้ในการขนส่งสินค้าได้อย่างถูกต้องตรงความหมาย
Cargo คือ ?
Cargo คือ ศัพท์ที่เราใช้เรียกสินค้าหรือสิ่งของที่ถูกขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า หรือการส่งออก โดยใช้ยานพาหนะหรือระบบขนส่ง จากจุดหนึ่งไปยังจุดอื่น ๆ เป็นสินค้าที่มีลักษณะถูกบรรจุอยู่ในหีบห่อ จากนั้นจึงนำไปใส่ต่อในตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่ง โดยคำว่า คาร์โก้ มักใช้ในบริบทของการค้าระหว่างประเทศ รวมถึง กิจกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศ ทางบก ทางทะเล และทางรถไฟ โดยอธิบายถึงสิ่งของหรือสินค้า ที่ถูกขนส่งจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่เพื่อการค้าหรือการใช้สำหรับงานต่าง ๆ
Freight คือ ?
Freight คือ ค่าระวาง หรือ ค่าขนส่งสินค้า ค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยคิดจากน้ำหนักของสินค้า และ คิดค่าขนส่ง ค่าระวางจะใช้สำหรับการขนส่งสินค้าทางเรือหรือทางอากาศ ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องมีการจัดการเอกสารที่ยุ่งยากกว่าการขนส่งภายในประเทศ
การขนส่งสินค้ามีความสำคัญอย่างไร
คาร์โก้ขนส่ง หรือ การขนส่งสินค้า กระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้า จากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่หนึ่ง โดยเป็นอุตสาหกรรมที่มีหลายรูปแบบ นำเสนอกระบวนการการขนส่งในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เรือ เครื่องบิน รถไฟ รถบรรทุก เป็นต้น
อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าเป็นผู้สนับสนุนสำคัญให้กับเศรษฐกิจสร้างโอกาสในการทำงานรองรับธุรกิจการขนส่งและด้านโลจิสติกส์กระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ถนนและสนามบิน
การขนส่งสินค้าจะช่วยทำให้การค้าระหว่างประเทศเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคทั่วโลกทำให้ประเทศต่างๆมีความสามารถในการผลิตสินค้าพร้อมเข้าถึงผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบจากภูมิภาคอื่นๆส่งผลให้ทางเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตมากขึ้น
การขนส่งสินค้าทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นสินค้าสุขภาพบริโภค
ผู้บริการด้านการขนส่งสินค้าจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเรื่องของการปล่อยก๊าซเสียในบริการการขนส่งจะต้องพิจารณาวิธีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
การขนส่งสินค้าได้รับการปรับปรุง มีประสิทธิภาพ และ มีความรวดเร็วขึ้นมาก เรือบรรทุกสินค้าสมัยใหม่สามารถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ได้หลายพันตู้
Cargo มีกี่แบบ
Cargo สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ตามลักษณะของสินค้า วิธีการขนส่ง และปลายทาง โดยประเภทหลักๆ ของ Cargo ได้แก่
1. ประเภทของสินค้า
- สินค้าทั่วไป (General Cargo) : สินค้าที่ไม่ต้องการการจัดการหรือการดูแลเป็นพิเศษ เช่น เครื่องจักร เสื้อผ้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
- สินค้าอันตราย (Dangerous Goods) : สินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ความปลอดภัย หรือสิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมี วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิด
- สินค้าเน่าเสียง่าย (Perishable Goods) : สินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิหรือสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันการเน่าเสีย เช่น อาหาร ผลไม้ ผัก
- สินค้ามีค่า (Valuable Goods) : สินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น เครื่องประดับ อัญมณี งานศิลปะ
- สินค้าเทกอง (Bulk Cargo) : สินค้าที่ขนส่งเป็นจำนวนมากโดยไม่บรรจุหีบห่อ เช่น ธัญพืช แร่เหล็ก น้ำมันดิบ
2. วิธีการขนส่ง
- Cargo ทางเรือ (Sea Cargo): สินค้าที่ขนส่งทางเรือ โดยบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์หรือขนส่งแบบเทกอง
- Cargo ทางอากาศ (Air Cargo): สินค้าที่ขนส่งทางเครื่องบิน โดยบรรจุในกล่องหรือพาเลท
- Cargo ทางรถบรรทุก (Truck Cargo): สินค้าที่ขนส่งทางรถบรรทุก โดยบรรจุในพาเลทหรือบรรทุกแบบเทกอง
- Cargo ทางรถไฟ (Rail Cargo): สินค้าที่ขนส่งทางรถไฟ โดยบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์หรือรถขนสินค้า
3. ปลายทาง
- Cargo ในประเทศ (Domestic Cargo): สินค้าที่ขนส่งภายในประเทศเดียวกัน
- Cargo ระหว่างประเทศ (International Cargo): สินค้าที่ขนส่งระหว่างต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีประเภทของ Cargo เฉพาะเจาะจงอื่นๆ อีก เช่น Cargo ขนาดใหญ่ (Oversized Cargo) สินค้าที่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐานปกติ Cargo แช่เย็น (Refrigerated Cargo) สินค้าที่ต้องขนส่งในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมอุณหภูมิ Cargo สด (Live Cargo) สัตว์ที่มีชีวิตหรือพืชที่ต้องขนส่งด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ประเภทตู้ และเรทราคาค่าขนส่งจากจีน
รูปแบบของการขนส่งสินค้า
รูปแบบการขนส่งแบ่งออกได้ 3 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ การขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และแบ่งออกเป็นอีก 6 ประเภทย่อย ๆ ได้อีก ดังต่อไปนี้
1.การขนส่งด้วยรถบรรทุกและรถยนต์
เป็นการขนส่งที่เหมาะกับการขนย้ายสินค้าภายในประเทศ สามารถเข้าถึงพื้นที่ต่างๆได้อย่างครอบคลุมซึ่งประกอบไปด้วย ยานพาหนะหลายขณะที่เราสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม
- ข้อดี คือ มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ยานพาหนะเข้าถึงพื้นที่ต่างๆได้อย่างครอบคลุม
- ข้อเสีย คือ มีต้นทุนค่าน้ำมันสูงและมีความไม่แน่นอนต้องระมัดระวังในการทำสัญญาและบางครั้งต้องขึ้นจากดินฟ้าอากาศและเส้นทางขนส่ง
2.การขนส่งแบบราง
เป็นการขนส่งทางบกด้วยรถไฟที่สามารถขนสินค้าได้หลากหลายผ่านตู้สินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไปพืชผลทางการเกษตรและน้ำมันวัสดุก่อสร้างซึ่งตู้คอนเทนเนอร์แบบต่างๆจะมีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งาน
- ข้อดี คือ มีต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งรูปแบบอื่นไม่ต้องกังวลเรื่องดินฟ้าอากาศมีความปลอดภัย
- ข้อเสีย คือ แต่อาจใช้เวลานานในการขนส่งและตู้บรรทุกสินค้าหรือขบวนรถขนส่งมีน้อยอาจต้องรอนานและต้องใช้งานร่วมกับการขนส่งแบบอื่นที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้เลย
3.การขนส่งทางน้ำ
การขนส่งทางน้ำหรือทางเรือบรรทุกสินค้าซึ่งเป็นในรูปแบบที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกก็สามารถขนสินค้าได้มากและมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสินค้าทางการเกษตรอาหารแช่แข็ง สินค้าทางเคมี เราสามารถบริหารจัดการได้ด้วยตนเองหรือจ้างบริษัทขนส่งดูแลได้
- ข้อดี คือ สามารถส่งสินค้าไปต่างประเทศ มีระบบบริหารจัดการที่สามารถควบคุมได้ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ตามความเหมาะสมสามารถเลือกขนาดตู้คอนเทนเนอร์ได้ตามต้องการ
- ข้อเสีย คือ หากบริหารจัดการไม่ดีอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นและหลายครั้งอาจจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศ
4.การขนส่งทางอากาศ
เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการความรวดเร็วมากเป็นพิเศษซึ่งการขนส่งทางอากาศถือว่าตอบโจทย์มากที่สุดโดยเป็นการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินที่เหมาะกับสินค้าที่อาจจะหมดอายุได้เร็วมีขนาดไม่ใหญ่มากหรือเป็นอุปกรณ์การแพทย์สินค้าที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ
- ข้อดี คือ มีความรวดเร็วกว่าการขนส่งรูปแบบอื่นๆเหมาะกับการขนส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศสามารถควบคุมเวลาได้ค่อนข้างแน่นอน
- ข้อเสีย คือ มีต้นทุนในการขนส่งมากกว่าแบบอื่นซึ่งไม่เหมาะกับสินค้าที่มีราคาถูกและไม่สามารถขนส่งสินค้าน้ำหนักมากๆได้รวมถึงต้องใช้ร่วมกับการขนส่งแบบอื่นๆในการเข้าถึงปลายทาง
5.การขนส่งทางท่อ
ในปัจจุบันแม้จะยังมีการใช้งานน้อยเมื่อเทียบกับการขนส่งแบบอื่นแต่การขนส่งผ่านทางท่อถือว่ามีประโยชน์และสะดวกสำหรับสินค้าบางประเภทได้แก่สินค้าปิโตรเลียมน้ำมันดิบน้ำมันก๊าซธรรมชาติ
- ข้อดี คือ สามารถควบคุมปริมาณในการขนส่งแต่ละครั้งได้ค่อนข้างแน่นอนและกำหนดเวลาในการขนส่งได้ตามต้องการต้นทุนค่าขนส่งและแรงงานต่ำไม่ต้องกังวลเรื่องดินฟ้าอากาศ
- ข้อเสีย คือ ยังใช้งานได้กับบางพื้นที่เท่านั้นของส่งสินค้าได้แค่บางประเภทการลงทุนค่อนข้างสูง
6.การขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์
การขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์จะต้องทำร่วมกับการขนส่งแบบอื่น ไม่ว่าจะทางเรือ ทางรถบรรทุก ทางเครื่องบินหรือทางรถไฟ มีขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ให้เลือกหลากหลายและประเภทตู้คอนเทนเนอร์ที่สามารถรองรับสินค้าได้หลายชนิด ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
- ข้อดี คือ สามารถเลือกขนาดผ่านตู้และรูปแบบการขนส่ง สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายเหมาะกับสินค้าหลายประเภท
- ข้อเสีย คือ หากบริหารจัดการไม่ดีอาจมีการปรับล่าช้าเกิดขึ้น ต้องจัดวางสินค้าให้แน่นหนาเพราะอาจเสียหายได้ง่าย และมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องศึกษาให้ละเอียด
เอกสารสำคัญของการขนส่ง Cargo
การขนส่ง Cargo ต้องใช้เอกสารประกอบหลายฉบับเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและศุลกากร เอกสารที่สำคัญ ได้แก่
- ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading) – เป็นหลักฐานการรับสินค้าจากผู้ขนส่ง และเป็นสัญญาการขนส่งระหว่างผู้ส่งสินค้ากับผู้ขนส่ง ระบุรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อผู้ส่งและผู้รับสินค้า ประเภทสินค้า น้ำหนัก และปลายทาง
- ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) – เป็นเอกสารที่ระบุรายละเอียดของสินค้าที่ขนส่ง เช่น ชื่อผู้ส่งและผู้รับสินค้า รายการสินค้า ราคา และเงื่อนไขการชำระเงิน ใช้สำหรับการคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียมศุลกากร
- ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) – เป็นเอกสารที่ระบุประเทศต้นกำเนิดของสินค้า ใช้สำหรับการกำหนดอัตราภาษีนำเข้าและเพื่อเป็นไปตามข้อตกลงการค้า
- ใบอนุญาตนำเข้า/ส่งออก (Import/Export License) – เป็นเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขนส่งสินค้าบางประเภทที่ต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น สินค้าที่เป็นอันตราย สินค้าที่ต้องควบคุม หรือสินค้าที่มีข้อจำกัดในการนำเข้าหรือส่งออก
- เอกสารประกันภัย (Insurance Certificate) – เป็นเอกสารที่แสดงหลักฐานการทำประกันภัยสำหรับสินค้าที่ขนส่ง เพื่อคุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง
- ใบตรวจสอบสินค้า (Inspection Certificate) – เป็นเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานตรวจสอบอิสระที่ยืนยันว่าสินค้าเป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุ เช่น ใบรับรองสุขอนามัย ใบรับรองคุณภาพ หรือใบรับรองความปลอดภัย
- ใบขนสินค้าขาออก/ขาเข้า (Export/Import Declaration) – เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับการประกาศสินค้าที่นำเข้าหรือส่งออกต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ระบุรายละเอียดของสินค้า มูลค่า และจุดประสงค์ในการนำเข้าหรือส่งออก
NOTE : การเตรียมเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขนส่ง Cargo ที่ราบรื่นและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
ความแตกต่างของ Cargo และ Freight
ความแตกต่างระหว่าง Cargo และ Freight มีความสำคัญในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยทั้งสองคำมีความเกี่ยวข้องกับการขนส่ง แต่มีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย Cargo เป็นคำที่ใช้เรียกสินค้าที่ถูกขนส่ง โดยไม่จำเป็นต้องระบุวิธีการขนส่ง เช่น ทางเรือ, ทางอากาศ, หรือทางรถบรรทุก คาร์โก้ สามารถใช้สำหรับการขนส่งสินค้าภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ ส่วน Freight เป็นคำที่ใช้เรียกค่าขนส่งสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ Freight มักจะใช้สำหรับการขนส่งสินค้าทางเรือหรือทางอากาศ ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องมีการจัดการเอกสารที่ยุ่งยากกว่าการขนส่งภายในประเทศ ทั้งสองคำมีความเกี่ยวข้องกับการขนส่ง แต่มีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อยตามบริบทการใช้งาน
สรุป Cargo ขนส่งคาร์โก้ หรือคำที่ใช้เรียกสินค้าที่ถูกขนส่ง โดยไม่จำเป็นต้องระบุวิธีการขนส่ง เช่น ทางเรือ, ทางอากาศ, หรือทางรถบรรทุกและสามารถใช้สำหรับการขนส่งสินค้าภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ ซึ่งท่านใดมีความต้องการจะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากจีน เรา Taobao2you ยินดีให้คำปรึกษา เราเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าจากจีนทั้งทางรถและทางเรือ สามารถนำเข้าสินค้าจากจีน จำนวนน้อย จำนวนมาก หรือจะเป็นรายชิ้น หากคุณไม่มีประสบการณ์ไม่ใช่ปัญหา เราดูแลคุณทุกขั้นตอนเรามีโกดังหรือเก็บสินค้าทั้งในประเทศจีนและประเทศไทย เราให้บริการในอัตราค่านำเข้าที่ถูกที่สุด เรามีบริการที่หลากหลาย นำเข้าสินค้าจากจีนอย่างเดียว ฝากสั่ง + นำเข้ากิโล ฝากสั่ง +นำเข้าปลีก หรือเหมาตู้คอนเทนเนอร์
_____________
ช่องทางการติดต่อ : Taobao2you.com/contact-us
เบอร์โทร : 091-505-0775 ( จันทร์ – เสาร์ 9:00-18:00 )
เฟสบุ๊ค : Taobao2you
อีเมล : Taobao2you@gmail.com
แอป | แอนดรอยด์ : คลิก
ไลน์ : @TAOBAO2YOU
